ดร.อัลเฟรด เวเกเนอร์ ได้เสนอ"ทฤษฎีการแปรสัณฐานแผ่นธรณีภาค"
ว่า "แต่เดิมแผ่นดินบนโลกเป็นผืนดินผืนเดียวกัน เรียกว่า พันเจีย" พันเจียแปลว่า แผ่นดินทั้งหมด เมื่อ 200 ล้านปีก่อน ทุกทวีปอยู่ชิดติดกันเป็นแผ่นดินขนาดใหญ่ เรียกว่า แพนเจีย (Pangaea) โดยมีดินแดนทางตอนเหนือชื่อ ลอเรเซีย (Lawresia) และดินแดนทางใต้ชื่อ กอนด์วานา (Gonwana) ซึ่งแบ่งแยกด้วยทะเลเททิส อินเดียอยู่กอนด์วานา
หลักฐานที่สนับสนุนทฤษฎีของเวเกเนอร์คือ
1.รอยต่อของแผ่นธรณีภาค ตามทฤษฎีเพลทเทคโทนิค (PLATE TECTONIC)
แผ่นธรณีภาคขนาดใหญ่มีทั้งหมด 6 แผ่น
1. แผ่นธรณีภาคยูเรเซีย รองรับทวีปยุโรป ทวีปเอเชียและพื้นน้ำบริเวณใกล้เคียง
2. แผ่นธรณีภาคอเมริกา รองรับทวีปอเมริกาเหนือ
ทวีปอเมริกาใต้และพื้นน้ำครึ่งซีกตะวันตกของมหาสมุทรแอตแลนติก
3. แผ่นธรณีภาคแปซิฟิก รองรับมหาสมุทรแปซิฟิก
4. แผ่นธรณีภาคอินเดีย – ออสเตรเลีย รองรับทวีปออสเตรเลีย
ประเทศอินเดีย และพื้นน้ำระหว่างประเทศออสเตรเลียกับประเทศอินเดีย
5. แผ่นธรณีภาคแอนตาร์กติก รองรับทวีปแอนตาร์กติกและพื้นน้ำโดยรอบ
6. แผ่นธรณีภาคแอฟริกา รองรับทวีปแอฟริกาและพื้นน้ำโดยรอบ
2.รอยแยกของแผ่นธรณีภาคและอายุหินบนเทือกเขากลางมหาสมุทร
ลักษณะโดดเด่นของพื้นมหาสมุทรแอตแลนติก ได้แก่
เทือกเขากลางมหาสมุทรซึ่งเป็นเหมือนเทือกเขายาวที่โค้งอ้อมไปตามรูปร่างของขอบทวีป
ด้านหนึ่งเกือบขนานกับชายฝั่งสหรัฐอเมริกา
และอีกด้านหนึ่งขนานกับชายฝั่งของทวีปยุโรปและอัฟริกา
นอกจากนั้นเทือกเขากลางมหาสมุทร
ยังมีรอยแยกตัวออกเป็นร่องลึกไปตลอดความยาวของเทือกเขาและมีรอยแตกตัดขวางบนสันเขานี้มากมายได้มีการพบหินบะซอลต์ที่บริเวณร่องลึก
หรือรอยแยกบริเวณเทือกเขากลางมหาสมุทรแอตแลนติก
และยังพบว่าหินบะซอลต์ที่อยู่ไกลจากรอยแยกมีอายุมากกว่าหินบะซอลต์ที่อยู่ใกล้รอยแยก
แผ่นธรณีภาคแบ่งออกเป็น 2
ชนิด คือ แผ่นทวีป และแผ่นมหาสมุทร
แผ่นธรณีภาคเหล่านี้มีการเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา
นักวิทยาศาสตร์และนักธรณีวิทยาได้ศึกษารอบต่อของแผ่นธรณีภาคอย่างละเอียด
และสามารถสรุปลักษณะการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีภาคได้ดังนี้
2. ขอบแผ่นธรณีภาคเคลื่อนเข้าหากัน
3. ขอบแผ่นธรณีภาคเคลื่อนที่ผ่านกัน
End



ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น